วันอาทิตย์ที่ 3 สิงหาคม 2551 (วันที่โพสท์ครั้งแรก)
พอมาดูบล็อกอีกทีก็ให้รู้สึกน่าอายยิ่งนัก แรกฝันไว้เลิศหรูว่าจะมาเล่าสู่กันฟังถึงประสบการณ์การเรียนฟลาเมงโก ก็มัวแต่ทำมาหากินประกอบกับความเกียจคร้าน ผลก็เลยเป็นเช่นนี้
ถึงวันนี้ก็เรียนไปได้หลายอย่าง ซึ่งก็สมควรอยู่ เพราะนับแล้วฉันก็เรียนฟลาเมงโกมาร่วมสามปีแล้วกระมัง "เซบิยานาส" หรือก็เรียนจบทั้งสี่เพลงแล้ว ส่วน "อเลเกรียส" (Alegrias) ก็เรียนไปจนจบท่อน "ซิเลนซิโอ" (Silencio) แล้ว ตามด้วยเพลง "ตังกิโย" (Tanguillo) อีกหนึ่งท่อน แถมด้วยการเรียนกีตาร์ เรียกว่าเรียนกันอุตลุดเลยครับท่านพ่อแม่พี่น้อง
ความที่เรียนกีตาร์ฟลาเมงโกด้วย (วิชาโทภาคบังคับ) ตอนนี้นิ้วมือข้างซ้ายก็เริ่มด้าน ขณะที่นิ้วมือข้างขวาก็ต้องไว้เล็บยาว เพราะกีตาร์ฟลาเมงโกไม่มีการใช้ปิ๊กดีดนะครับพี่น้อง ใช้ได้แต่นิ้วและเล็บของเราเท่านั้น ไอ้เรื่องเจ็บนั้นไม่เท่าไหร่ เพราะเคยเรียนกีตาร์ตอนเด็กๆ มาแล้ว แต่เหนื่อยมากๆ เพราะการเล่นกีตาร์แบบฟลาเมงโกนี้ต้องใช้พลังมากจริงๆ แล้วเรื่องเมื่อยนี่...สุดยอด บางวันนิ้วเกร็งค้าง อารมณ์เดียวกับคนกรามค้างเลย เพราะฉันเป็นคนมือเล็ก นิ้วสั้น เวลาเล่นกีตาร์ก็เลยยากลำบากลำบน แต่ก็กัดฟันทน โธ่...ก็อาจารย์ปู่ของฉันน่ะ มือก็เล็กพอๆ กัน ท่านยังเล่นได้เลย ฉะนั้นจึงไม่มีข้ออ้างว่าสรีระไม่ให้เด็ดขาด (เศร้า)
แม้จะเรียนมานานแล้ว แต่ปัญหาที่ฉันยังแก้ไม่ตกก็คือการดีดกรับให้มันดังเด้งสมใจนึก รู้น่ะว่ามันต้องหัดบ่อยๆ แต่ว่ามันขี้เกียจ เอ๊ย มันไม่ค่อยจะมีเวลา พอมีเวลาก็ลืมทุกที หรือไม่ก็มีคนอยู่เต็มบ้าน ทำให้ไม่กล้าซ้อมดีด กลัวคนที่บ้านจะมัวแต่มองหาว่ารถขายเกี๊ยวที่ไหนวะ วิ่งเข้าซอยออกซอยอยู่ได้
อีกอย่างก็คือฉันยังกะช่วงที่ควรจะวางนิ้วบนกรับและยังปรับความแน่น-หลวมของสายผูกได้ไม่ดี คนที่ดีดเก่งๆ คงไม่มีปัญหา แต่สำหรับฉันมันเป็นเรื่องใหญ่ เพราะถ้าผูกสายเชือกแน่นไป เราจะดีดกรับไม่ดังเพราะเชือกมันรั้งชิ้นไม้ไว้ตึงเกินไป แต่ถ้าปล่อยให้เชือกหย่อนมากไปก็จะทำให้เราดีดไม่ถนัด ยิ่งเวลาที่ต้องวาดแขนไปด้วย ดีดกรับไปด้วย แถมด้วยเท้าก็ต้องเดินไปตามสเต็ปเพลง คุณเอ๊ย ไม่รู้จะทำอะไรก่อนอะไรหลัง ชีวิตนี้ช่างสับสนเป็นยิ่งนัก
แต่ถ้าวันไหนกะทุกอย่างได้พอดีเป๊ะ เสียงกรับจะดังกังวาน ชวนให้ฮึกเหิมและเคลิ้มไปว่าเออ ตูข้าก็ฝีมือไม่เลวเหมือนกันนิ อะเหอๆ แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่มันจะเก่งจริงๆ
ขอนอกเรื่องนิดนึง เมื่อเดือนที่แล้วไปเข้าคลาสลีลาศ มีสอนจังหวะ ปาโซโดเบล (Paso Doble) ด้วย อีนี่ก็เลย "อิน" ซะ... อยากจะคิดว่าดิฉันมาดให้ที่สุดในชั้นเลยเชียว
ตอนนี้ใช้วิธีเรียกผีฟลาเมงโกกับผีสเปนให้มาเข้าสิง คิดอะไรเป็นภาษาสเปนไปโม้ด เวลาทำงานก็เปิดแต่เพลงฟลาเมงโก จะอ่านนิยายก็ไปหยิบเอาเรื่องที่เกี่ยวกับฟลาเมงโกมาอ่าน ว่างๆ ก็ดูดีวีดีฟลาเมงโก ทั้งที่เป็นบทเรียนและเป็นหนัง เอาให้มันอินถึงขั้นหลับก็ฝันถึงได้ยิ่งดี เรียกว่าพยายาม Living flamenco ให้มากที่สุด ก็ไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรเกี่ยวกับการเรียนได้ไหม แต่ว่าทำแล้วสบายใจ ก็เลยไม่รู้ว่าทำไมถึงจะไม่ทำ
ไปล่ะ เดี๋ยวอาทิตย์หน้า ถ้าไม่ขี้เกียจ ก็จะมาเล่าสู่กันฟังให้มันเป็นเรื่องเป็นราวกว่านี้.
I hope this to be a source of flamenco infos in Thai language. หวังให้เป็นแหล่งข้อมูลฟลาเมงโก้ในภาษาไทย...;)
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
โพสต์แนะนำ
Learning Flamenco in Thailand
17th September 2018/ 17 กันยายน 2561 ข่าวเพิ่มเติม ทาคุโอะเซนเซถึงแก่กรรมอย่างสงบเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ดังนั้น ผู้ที่ต้องการเรียนกีตาร...
-
17th September 2018/ 17 กันยายน 2561 ข่าวเพิ่มเติม ทาคุโอะเซนเซถึงแก่กรรมอย่างสงบเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ดังนั้น ผู้ที่ต้องการเรียนกีตาร...
-
วันเสาร์ที่ 18 ตุลาคม 2551 (วันที่โพสท์ครั้งแรก) วันหนึ่งเมื่อฉันไปเรียนตามปกติ พบจบครึ่งแรก พระอาจารย์ชาวญี่ปุ่นของฉันก็พูด...แปลเป็นไทยไ...
-
“La bailaora excelente.” ครูชาวญี่ปุ่นผู้สอนฟลาเมงโก้ให้ฉันกล่าวชม เมื่อตอนที่เราได้ดูวิดีโอตอนที่ เอบา เยรบาบูเอน่า (Eva Yerbabuena) เต้นเด...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น